เคยสงสัยกันไหมว่าธุรกิจที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลหรือ “Big Data” มีการจัดการหรือดูแลระบบต่าง ๆ ให้สามารถทำงานตลอดเวลาได้อย่างไร? ข้อมูลเหล่านั้นถูกจัดเก็บไว้ที่ไหน?
บทความนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับระบบ “Data Center” ที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจขององค์กรในหลากหลายด้าน เช่น การให้บริการลูกค้า การวิเคราะห์ข้อมูล การตัดสินใจ และการสื่อสารภายในองค์กร Data Center จึงเปรียบเสมือนหัวใจที่ต้องทำหน้าที่ตลอดเวลา เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพนั่นเอง
Data Center คืออะไร
ศูนย์ข้อมูล หรือ Data Center คือ ห้อง อาคาร หรือสถานที่ทางกายภาพที่เก็บคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ โดยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีไม่ว่าจะเป็น เซิร์ฟเวอร์ (Server) ไดร์ฟจัดเก็บข้อมูล และอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อสร้าง ใช้งาน และจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลขององค์กร
ความสำคัญของระบบ Data Center
หลังจากที่เราได้ทำความเข้าใจกันแล้วว่า Data Center คืออะไร ในหัวข้อนี้จะพาคุณมาเจาะลึกถึงความสำคัญและประโยชน์ของ Data Center กัน
1. เชื่อมต่อระบบได้รวดเร็ว
ระบบของผู้ให้บริการทุกรายจะใช้ Internet ความเร็วสูงในการให้บริการ การมี Data Center ที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างรวดเร็ว สามารถประมวลผล และรับส่งข้อมูลได้ต่อเนื่องอย่างไม่มีสะดุด ส่งผลให้ธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดียิ่งขึ้นในฐานะผู้ให้บริการ
2. ระบบไฟฟ้าพร้อมใช้งาน
ในหลายธุรกิจที่เป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์เอง อาจเคยพบเจอกับปัญหาระบบไฟฟ้าที่ทำให้เซิร์ฟเวอร์ขัดข้องหรือไม่สามารถให้บริการได้ การวางระบบ Data Center ที่ดี มีการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้งานในกรณีฉุกเฉิน จะช่วยให้ระบบสามารถทำงานต่อได้อย่างราบรื่น
3. มีความปลอดภัยขั้นสูง
การดูแล Data Center จะมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เฝ้าสังเกตการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดข้อผิดพลาดก็สามารถแก้ไขได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเวลา อีกทั้งยังช่วยปกป้องข้อมูลให้เป็นไปตามหลัก Cyber Security หรือความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่มุ่งเน้นด้านการป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลจากการถูกโจรกรรม โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวลูกค้าและรักษาชื่อเสียงขององค์กร
อ่านเพิ่มเติมเรื่องกฎหมายคุ้มครองสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่: PDPA คืออะไร?
ประเภทของ Data Center
On-premises data centers
On-premises data centers คือ ศูนย์ข้อมูลขององค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยสมบูรณ์ ทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องขององค์กร โดยจะต้องมีการดำเนินงานตลอดเวลา เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที
ข้อดี: สามารถปรับแต่ง Data Center ได้ตามความต้องการ มีความปลอดภัยสูงเพราะมีการดูแลโดยบุคลากรในบริษัท
ข้อจำกัด: มีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องลงทุนในการจ้างพนักงานเพื่อรักษาความปลอดตลอดเวลา อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการซื้ออุปกรณ์และการซ่อมแซม รวมไปถึงการเพิ่ม Data Center หลายแหล่ง เพื่อกระจายความเสี่ยงจากปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
Colocation data centers
Colocation data centers คือ พื้นที่เช่าที่ได้รับการจัดการและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับองค์กรที่ไม่มีพื้นที่ พนักงาน หรือความเชี่ยวชาญในการวางโครงสร้างด้านไอที โดยให้ผู้มีสิทธิ์เข้าถึงระบบแต่เพียงผู้เดียว
ข้อดี: ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานดูแลระบบตลอดเวลา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง/บำรุงอุปกรณ์ต่าง ๆ และสามารถเลือกพื้นที่ Data Center ได้หลากหลาย
ข้อจำกัด: ในการเช่าพื้นที่สำหรับ Data Center จะต้องกำหนดความต้องการเพื่อเลือกอย่างละเอียด และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อต้องการขยายพื้นที่ Data Center
Public cloud data centers
Public cloud data centers คือ พื้นที่บนระบบคลาวด์ โดยคุณสามารถเช่าได้ทั้งพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะมีระบบการรักษาความปลอดภัย Data Center และปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ผู้เช่าต้องการได้
ข้อดี: ช่วยลดต้นทุนในการจ้างพนักงานและการบำรุงรักษาอุปกรณ์ อีกทั้งยังลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน และยังมีระบบที่ยืดหยุ่นสามารถปรับได้ตามความต้องการขององค์กรอีกด้วย
Data Center ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
อย่างที่เราทราบกันว่าการวางระบบ Data Center ที่ดีนั้นมีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยการสร้าง Data Center จะต้องยึดตามคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. มีระบบไฟฟ้าไหลผ่านตลอดเวลา
คุณสมบัติข้อแรกของ Data Center คือ มีระบบไฟฟ้าไหลผ่านตลอดเวลา เนื่องจากระบบต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง จึงต้องมีระบบไฟฟ้าที่ดีและไหลผ่านตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ หยุดทำงานกะทันหัน และต้องมีระบบสำรองไฟที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันกรณีเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง
2. มีอุณหภูมิเหมาะสม
คุณสมบัติข้อถัดไปของ Data Center คือ การมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนจนเกินไป รักษาความเย็นและความชื้นให้อยู่ในระดับมาตรฐาน เพื่อให้การจัดเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ดูแลระบบโดยวิศวกรคอมพิวเตอร์
เพื่อให้ระบบ Data Center สามารถทำงานต่อไปได้อย่างราบรื่น คุณสมบัติอีกข้อที่สำคัญของ Data Center คือ ต้องดูแลระบบโดยวิศวกรคอมพิวเตอร์ ที่มีความรู้ด้าน Network Engineering มาดูแลเซิร์ฟเวอร์
4. มีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์ตลอดเวลา
ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์ตลอดเวลา เนื่องจากระบบ Data Center ต้องทำงาน 24 ชั่วโมง การเตรียมความพร้อมเมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือกรณีไม่คาดคิดจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที
5. มีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
เนื่องจาก Data Center คือ หัวใจหลักขององค์กร ที่ใช้ในการดูข้อมูลที่เป็นความลับและทำให้ระบบให้ดำเนินต่อไปได้อย่างไม่ติดขัด จึงต้องมีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดเพื่อเข้าสู่พื้นที่ Data Center เช่น ระบบสแกนลายนิ้วมือ หรือระบบสแกนม่านตา เป็นต้น เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์หรือการโจรกรรมข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ระบบ Data Center ในประเทศไทย
ปัจจุบัน Data Center ในไทยก็มีการเติบโตเป็นอย่างมาก ประเทศไทยเป็นเป้าหมายในการเข้ามาลงทุน Data Center ของบริษัทระดับโลก เช่น Amazon, Microsoft, Google Cloud และผู้ให้บริการในไทยอย่าง True IDC ก็มีการวางแผนลงทุนเช่นเดียวกัน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: ยุคทอง‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ เงินลงทุนสะพัดแสนล้าน ปักหมุดไทยสู่ ‘ดิจิทัลฮับ’
สรุป ระบบ Data Center
โดยสรุปแล้วระบบ Data Center คือโครงสร้างที่สำคัญของระบบ IT การมี Data Center ที่มีคุณภาพจะช่วยสนับสนุนให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ดังนั้นจึงควรออกแบบ Data Center ให้มีความพร้อม ตั้งแต่การเลือกสถานที่ การวางโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม การวางระบบ การดูแลรักษาความปลอดภัย เมื่อเกิดปัญหาต้องสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที และดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้ใช้บริการว่าองค์กรของคุณมีระบบ Data Center ที่ได้คุณภาพ
เริ่มสร้างระบบ Data Center ที่มีประสิทธิภาพได้แล้ววันนี้ เพียงปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานภายในองค์กรให้เป็นไปตามแนวคิด Digital Transformation ด้วยการใช้ระบบ DMS (Document Management System) ที่ช่วยนำเข้าและจัดเก็บเอกสารกระดาษให้เป็นรูปแบบไฟล์ดิจิทัลหรือ E-Document เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถดูแลข้อมูลได้เป็นระบบมากขึ้น ลดปัญหาที่เกิดการจัดเก็บ ค้นหา และสืบค้นข้อมูล ให้ไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป
ติดต่อสอบถามข้อมูลระบบจัดการเอกสาร เพิ่มเติม
📞 02-517-555
📱063 204 0321
Line ID: @dittothailand