Digital Technology คืออะไร ช่วยผลักดันธุรกิจของคุณให้เติบโตเหนือกว่าคู่แข่ง

ปัจจุบันโลกได้พัฒนาจนมีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน โดยการนำ Digital Technology มาประยุกต์ใช้ในการทำงานถือเป็นสิ่งที่จะช่วยให้องค์กรอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ธุรกิจที่ปรับตัวช้าหรือไม่ยอมรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ก็มักจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ในขณะที่องค์กรที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างชาญฉลาดกลับได้เปรียบในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุนลงหรือเป็นสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักว่า Digital Technology คืออะไร และประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิทัลว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของคุณให้ก้าวหน้าเหนือคู่แข่งได้อย่างไร 

Digital Technology คืออะไร

Digital Technology คือการรวมกันของอุปกรณ์ ระบบและทรัพยากรดิจิทัลที่ช่วยในการสร้าง จัดเก็บ ประมวลผลและแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร ปัจจุบัน เทคโนโลยีดิจิทัลได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจนำมาใช้ในการพัฒนากระบวนการทำงานและการให้บริการลูกค้า เช่น การใช้ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) หรือระบบจัดการเอกสารที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังรวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์เพื่อพัฒนากระบวนการผลิต ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Green Technology ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน

Digital Technology มีความสำคัญอย่างไร

โลกเรากำลังก้าวเข้าสู่ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น เทคโนโลยีดิจิทัลจึงมีความสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้การตัดสินใจทางธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ธุรกิจที่นำ Digital Technology มาปรับใช้จะสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ Green Technology ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกเช่นกัน 

ตัวอย่างของ Digital Technology ที่เหมาะสำหรับธุรกิจ มีอะไรบ้าง

ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีดิจิทัลหลากหลายรูปแบบที่เหมาะกับการนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ แต่ละประเภทมีจุดเด่นและประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะของธุรกิจนั้น ๆ โดยมีตัวอย่างดังต่อไปนี้  

1. Chatbot

Chatbot เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในธุรกิจ E-commerce และธุรกิจที่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า โดยแชตบอทจะทำหน้าที่เสมือนพนักงานขายหรือพนักงานบริการลูกค้าที่สามารถตอบคำถาม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ รวมถึงช่วยแนะนำทางเลือกต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ ยังสามารถให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน โดยไม่มีวันหยุด และสามารถรองรับการสนทนากับลูกค้าหลายรายพร้อมกันได้ ซึ่งช่วยลดภาระงานของพนักงานและลดต้นทุนในการจ้างบุคลากรเพิ่ม

สำหรับตัวอย่างของธุรกิจที่นำ Chatbot มาใช้งานนั้น เช่น Shopee, Lazada, TikTok หรือแม้แต่ LINE OA ซึ่งจะช่วยคัดกรองความต้องการของลูกค้าเบื้องต้น และช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วย

2. Cyber Security 

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลมีความสำคัญ Cyber Security หรือความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเป็น Digital Technology ที่หลายธุรกิจต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่มีการเก็บข้อมูลสำคัญของลูกค้า เช่น ธุรกิจการเงิน ธนาคาร ธุรกิจ E-commerce หรือแม้แต่การจัดเก็บข้อมูลและเอกสารภายในองค์กร โดยจะช่วยปกป้องข้อมูลและระบบจากการโจมตีของแฮกเกอร์ หรือป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางการเงิน สูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าหรือแม้แต่เสื่อมเสียชื่อเสียง

การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นและสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าข้อมูลสำคัญของธุรกิจจะปลอดภัย Ditto มีบริการระบบ Data Security ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรโดยเฉพาะ ทำให้มั่นใจได้ว่าเอกสารและข้อมูลสำคัญของธุรกิจจะได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ นอกจากนี้ ระบบยังสามารถตรวจสอบและติดตามการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างละเอียด ช่วยให้องค์กรสามารถระบุความเสี่ยงและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน

3. Cloud Computing 

Cloud Computing หรือการประมวลผลแบบคลาวด์ เป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนรูปแบบการทำงานในองค์กรอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่การทำงานระยะไกลกลายเป็นเรื่องปกติ Digital Technology คือการใช้บริการคอมพิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้จากทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ นอกจากนี้ ยังช่วยลดต้นทุนในการสร้างและบำรุงรักษาระบบ IT ของตนเอง (On-Premise) ทำให้ธุรกิจสามารถปรับขนาดการใช้งานได้ตามความต้องการและมีความยืดหยุ่นด้านค่าใช้จ่าย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน  

ข้อดีของ Digital Technology

• เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ปรับปรุงกระบวนการทำงาน (Workflow Process) ให้มีความเป็นระบบมากขึ้น 
• ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน รวมทั้งลดงานที่ไม่จำเป็น ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น ลดข้อผิดพลาดในการทำงาน โดยการนำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วย เช่น ระบบจัดการงานหรือระบบ AI สามารถลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และช่วยให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีคุณค่าเพิ่มมากขึ้น
• ลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว เปลี่ยนการใช้กระดาษสู่องค์กร Paperless ด้วยการนำระบบ ECM หรือระบบ DMS เข้ามาใช้งานจะช่วยให้การจัดการข้อมูลและเอกสารเป็นระบบระเบียบ สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและช่วยลดต้นทุนในการจัดการเอกสารที่ไม่จำเป็นได้ในหลายมิติ   
• ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ซึ่งจะทำให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและแนวโน้มตลาดได้ดีกว่า

สรุปบทความ 

Digital Technology คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของคุณก้าวหน้าและเติบโตเหนือคู่แข่งในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น Chatbot ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้า Cybersecurity ที่ปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กร หรือ Cloud Computing ที่ช่วยให้การทำงานมีความยืดหยุ่นและประหยัดต้นทุน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ลดต้นทุนการดำเนินงานและสร้างแผนการตลาดใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรหรือธุรกิจของคุณมีความแตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ ในท้องตลาด อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้เทคโนโลยีควรพิจารณาให้เหมาะสมกับลักษณะและความต้องการของธุรกิจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน