ปัจจุบันหลาย ๆ ธุรกิจได้เปลี่ยนไปเป็น Digital Transformation หลายองค์กรจึงต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญขององค์กร ดังนั้น Outsource จึงกลายเป็นทางเลือกที่หลายองค์กรนำมาใช้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน ลดต้นทุนและได้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยงานโดยไม่ต้องแบกรับภาระระยะยาว แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า Outsource คืออะไร และจะช่วยให้องค์กรทำงานได้ดีขึ้นอย่างไร วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันอย่างละเอียดกันใน บทความนี้
Outsource คืออะไร
Outsource คือรูปแบบการจ้างงานที่องค์กรว่าจ้างบุคคลหรือบริษัทภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เข้ามารับผิดชอบงานบางส่วนหรือทั้งหมดแทนการใช้พนักงานประจำ โดยสามารถเลือกจ้างได้ทั้งแบบรายโครงการ รายเดือนหรือรายปีตามข้อตกลง ข้อดี คือได้ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมทำงานได้ทันที ไม่ต้องผ่านกระบวนการฝึกอบรมและไม่มีภาระผูกพันระยะยาว แม้อัตราค่าจ้างอาจสูงกว่าพนักงานประจำ แต่เมื่อคิดต้นทุนรวมแล้วประหยัดกว่า เพราะไม่ต้องจ่ายสวัสดิการและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
ข้อดีของการใช้ Outsource กับองค์กร
การใช้บริการ Outsource นั้นมีข้อดีมากมายที่จะช่วยให้องค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ธุรกิจต้องปรับตัวเร็วและแข่งขันสูง มาดูกันว่ามีข้อดีอะไรบ้าง ดังนี้
ช่วยเหลือองค์กรในกรณีที่ขาดแคลนพนักงาน
ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร เป็นความท้าทายที่หลายองค์กรต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงที่มีปริมาณงานเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน การใช้บริการ Outsource จึงเป็นทางออกที่ดี เพราะได้ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมทำงานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาสรรหาและฝึกอบรม แต่จะมีทีมงานที่ผ่านการคัดกรองมาอย่างดี มีความรู้และประสบการณ์ตรงกับความต้องการ ทำให้องค์กรสามารถรับมือกับงานเร่งด่วนหรือโปรเจกต์พิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประหยัดงบประมาณในการว่าจ้างงานพนักงาน
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Outsource เป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนี้ คืองบประมาณในการจ้างงาน แม้ค่าจ้างต่อเดือนอาจสูงกว่าพนักงานประจำ แต่เมื่อคิดค่าใช้จ่ายรวมแล้วคุ้มค่ากว่ามาก เพราะองค์กรไม่ต้องจ่ายสวัสดิการ ประกันสังคม โบนัส กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ แต่กลับได้งานที่มีคุณภาพเท่ากับพนักงานประจำ นอกจากนี้ยังประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสถานที่และอุปกรณ์สำนักงาน รวมถึงค่าฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร เพราะบริษัท Outsourcing จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้เอง
ลดภาระงานและความซับซ้อนภายในองค์กร
Outsource ช่วยลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการองค์กร โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมาก การจ้าง Outsource จะช่วยลดความซับซ้อนในการบริหารงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ่ายเงินเดือน การจัดการสวัสดิการหรือการประเมินผลงาน เพราะบริษัท Outsource จะดูแลเรื่องเหล่านี้ให้ทั้งหมด ทำให้องค์กรสามารถโฟกัสกับงานหลักและเป้าหมายสำคัญได้อย่างเต็มที่
มีความยืดหยุ่นในการทำงาน
ความยืดหยุ่นเป็นข้อดีสำคัญของการใช้ Outsource โดยองค์กรสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนบุคลากรได้ตามปริมาณงาน ไม่ต้องกังวลเรื่องภาระผูกพันระยะยาว เมื่องานเยอะก็เพิ่มคนได้ทันที พองานน้อยลงก็ลดจำนวนคนได้ ทำให้บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้น ๆ
การจ้าง Outsource ทำให้องค์กรได้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญเฉพาะทางมาช่วยงาน เพราะบริษัท Outsource มักมุ่งเน้นการให้บริการเฉพาะด้านและลงทุนในการพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญสูง ไม่ว่าจะเป็นงานด้านไอที การตลาด บัญชีหรืองานเฉพาะทางอื่น ๆ ทำให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
สรุปบทความ
Outsource คือทางเลือกที่ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่ที่ต้องการความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยข้อดีทั้งด้านความยืดหยุ่น การประหยัดต้นทุนและการได้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยงาน ทำให้ Outsource กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะในยุคที่ธุรกิจต้องปรับตัวเร็วและแข่งขันสูง การมี Outsource ที่มีคุณภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคง
สำหรับองค์กรที่กำลังมองหาบริการ Outsource ที่มีคุณภาพ Ditto มีบริการระบบ Business Process Outsourcing ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร พร้อมทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนาน ช่วยให้องค์กรของคุณก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นใจ ถ้าคุณสนใจบริการนี้สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริการ BPO : Business Process Outsourcing ได้เลย
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Ditto
📞 02-517-5555
https://dittothailand.com/contact-us/
Line ID: @dittothailand