ทำความเข้าใจ Data Visualization ศาสตร์แห่งการนำข้อมูลมาแสดงเป็นภาพ

 

การมีข้อมูลที่พร้อมใช้งานเป็นหนึ่งสิ่งที่หลายองค์กรต่างให้ความสำคัญ เพราะข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการวิเคราะห์มีความซับซ้อนและยากที่จะทำให้ผู้รับสารทุกคนเข้าใจ จึงได้มีการนำศาสตร์ที่ช่วยแปลงข้อมูลเป็นรูปภาพอย่าง Data Visualization มาประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อให้ผู้รับสารสามารถเข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วและถูกต้อง อีกทั้งยังช่วยให้การทำงานของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล “Data Scientist” และ นักวิเคราะห์ข้อมูล หรือ “Data Analyst” มีความสะดวกยิ่งขึ้น

โดยในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า Data Visualization คืออะไร? มีกี่รูปแบบ? ทำไมจึงมีความสำคัญต่อกระบวนการวิเคราะห์? และยกตัวอย่าง 6 Data Visualization Tools ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

 

 

ทำความรู้จัก Data Visualization คืออะไร

Data Visualization คือ การสรุปผลข้อมูลให้เป็นรูปภาพที่เขาใจง่าย ชี้ประเด็นของข้อมูลได้อย่างตรงจุด และสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าชิ้นงานต้องการสื่อสารอะไรบ้าง เพราะข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ (Data Analytics) เป็นข้อมูลที่มีความซับซ้อน จึงต้องมีวิธีการนำเสนอแบบ Data Visualization ที่ช่วยให้ผู้รับสารทุกคนเข้าใจข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน และนำไปสู่การตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

 

 

Data Visualization มีอะไรบ้าง

อย่างที่เราได้กล่าวไปในหัวข้อข้างต้นว่า Data Visualization คือ การแปลงข้อมูลที่ซับซ้อนให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้น โดยแปลงเป็นรูปภาพที่แสดงค่าต่าง ๆ อย่างเป็นสัดส่วน และใช้สีที่แตกต่างกันเพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็น โดยคุณสามารถสร้าง Data Visualization ได้ตามรูปแบบดังนี้

 

 

แผนภูมิ (Charts): เป็นรูปแบบการนำเสนอที่หลายคนคุ้นเคยกันมากที่สุด มีรูปแบบในการเสนอที่มีความหลาย ผู้ใช้งานสามารถเลือกรูปแบบการนำเสนอเพื่อให้เข้ากับวัตถุประสงค์ของข้อมูลได้

 

แผนที่ (Maps): เป็นการนำเสนอข้อมูลบนแผนที่เพื่อแสดงข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ต่าง ๆ สามารถเพิ่มรายละเอียดการนำเสนอด้วยการใส่สีแสดงความเข้มบนแผนที่ โดยจะเรียกว่า Heat Map

 

กราฟ (Graph): เป็นรูปแบบการนำเสนอข้อมูลที่แสดงตำแหน่งของข้อมูล และการลากเส้นเชื่อมในแต่ละจุดเพื่อดูแนวโน้มของข้อมูล หรือเปรียบเทียบข้อมูล

 

อินโฟกราฟิก (Infographics): เป็นการนำเสนอข้อมูลด้วยการใช้เครื่องมือด้านกราฟิกเข้ามาช่วย สามารถใส่เทคนิค Storytelling เพื่อให้ข้อมูลน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

 

แดชบอร์ด (Dashboards): เป็นการนำเอาข้อมูลต่าง ๆ มาเรียบเรียงและนำเสนอเป็นภาพ โดยใช้แผนภูมิและกราฟหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้รับสารสามารถเข้าใจข้อมูลภาพรวมทั้งหมด

 

 

6 Data Visualization Tools ที่ช่วยให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น

 

 

1. Looker Studio

Looker Studio นับว่าเป็นเครื่องมือ Data Visualization ที่สะดวกต่อการใช้งานมาก ๆ ใช้งานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่มีบัญชี Gmail ก็สามารถใช้งานได้เลย อีกทั้งยังเชื่อมต่อแหล่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแหล่งข้อมูลจาก Google เช่น Google Analytics, Google Ads, Google Search Console และ YouTube

 

2. Zoho Analytic

Zoho Analytic เป็นเครื่องมือที่เน้นเรื่อง CRM หรือการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า จุดเด่นคือสามารถนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาความต้องการของลูกค้า เป็นซอฟต์แวร์ด้าน Business Intelligence ที่ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกออกมาเป็นรูปภาพได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที

 

3. Tableau

Tableau ถือเป็นซอฟต์แวร์ Business Intelligence ที่นิยมอีกตัว มีความโดดเด่นเรื่องการทำ Data Visualization ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน รองรับการใช้งานทั้งบน MacOS และ Windows จัดการ Data ได้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงแบบ Data ที่มีความซับซ้อน

 

4. Microsoft Power BI

Microsoft Power BI เป็นเครื่องมือทำ Data ที่รู้จักกันแพร่หลาย และใช้ในหลากหลายองค์กร มีจุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมอื่น ๆ ของ Microsoft เข้าไว้ด้วยกันทั้งหมด มีแดชบอร์ดและเทมเพลตการนำเสนอให้เลือกหลายรูปแบบ พร้อมฟังก์ชันมากมายตามความต้องการ

 

5. Endlessloop

Endlessloop เป็นซอฟต์แวร์จัดการ Data ที่เน้นเรื่องการตลาดแบบ Growth Hacking เป็นหลัก ด้วยการเอาข้อมูลที่มีไปแยกย่อย แล้ววิเคราะห์ออกมาอีกที ทำให้ประเมินสถานการณ์แต่ละขั้นได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเพิ่มหรือปรับปรุงแคมเปญที่ออกแบบมา เพื่อดึงดูดการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง

 

6. Databox

Databox เป็นเครื่องมือ Data Visualization ที่สามารถดึงข้อมูลทํา Dashboard จากแหล่งต่าง ๆ ได้มากถึง 70 แหล่ง โดยมีวิธีการทํา Dashboard ง่าย ๆ เพียงแค่ Drag-and-Drop ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน โดยจะแสดง Performance ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และกำหนด KPIs เพื่อติดตามผลความคืบหน้า

 

 

ประโยชน์ของการทำ Data Visualization

 

 

1. เพิ่มความน่าสนใจของข้อมูล

การทำ Data Visualization คือ การทำข้อมูลให้เป็นภาพ จึงมีการใช้สีเพื่อแบ่งสัดส่วนของข้อมูล เรียบเรียงข้อมูลอย่างเป็นระเบียบ มีความสวยงาม ดึงดูดให้ผู้รับสารเกิดความสนใจมากกว่าการนำเสนอ Data ที่ซับซ้อน

 

2. ประหยัดเวลาทำความเข้าใจข้อมูล

แม้ข้อมูลจะมีจำนวนมหาศาล หรือมีความซับซ้อนเพียงใด หากอยู่ในรูปแบบของ Data Visualization ที่สรุปข้อมูลออกมาในรูปภาพรูปเดียวก็สามารถเข้าใจสารที่ต้องจะสื่อได้ทันที

 

3. ช่วยตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

การแสดงผลในรูปแบบ Data Visualization จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบและวัดผลลัพธ์ได้จากการมองเห็น สามารถประมวลผลได้ไวและช่วยตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

 

4. ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกหนึ่งประโยชน์ของการทำ Data Visualization คือ ผู้รับสารสามารถเข้าใจได้ทันทีผ่านการมองเห็น ทำให้ลดเวลาในการทำความเข้าใจ Data มากกว่าการอ่านข้อมูลปกติ

 

 

ความสำคัญ Data Management Solutions ที่มีต่อ Data Visualization

แต่ก่อนจะใช้ Data Visualization ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่ควรอยู่ในรูปแบบ Digital เสียก่อน เพราะจะทำให้การรวบรวม คัดแยกและประมวลผลข้อมูลเป็นไปอย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งระบบจัดการเอกสาร DMS (Document & Data Management Solutions) เป็นระบบบริหารจัดการเอกสารแบบครบวงจรที่จะช่วยแปลงข้อมูลจากเอกสารในรูปแบบกระดาษสู่ไฟล์เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง จัดเก็บและค้นหา ช่วยร่นระยะเวลาการทำงานได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับองค์กรที่มีการหมุนเวียนของข้อมูลจำนวนมาก เพราะการทำข้อมูลตกหล่นหรือสูญหาย อาจจะส่งผลให้เกิดการเสียโอกาสทางธุรกิจได้มากกว่าที่คิด

 

ดังนั้น การใช้ระบบที่ช่วยจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมการทำงานของ Data Visualization ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด

 

 

สรุป Data Visualization

สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ Data Visualization คือ ศาสตร์สำคัญที่เข้ามาช่วยให้การดำเนินงานทางธุรกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเสนอข้อมูลเป็นรูปภาพที่เข้าใจง่าย ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถเข้าใจข้อมูลทั้งหมด จึงทำให้หลายธุรกิจต่างใช้ Data Visualization เพื่อย่อยข้อมูลที่ซับซ้อนต่าง ๆ ให้ใช้ในการตัดสินใจได้ดีขึ้น

 

ด้วยเหตุนี้เอง Ditto (ดิทโต้) จึงพร้อมเป็นผู้สนับสนุนหลักที่จะช่วยบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลของทั้งองค์กรให้อยู่ในระบบ Digital ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบและอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงการบริการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานเอกสารแบบครบวงจร พร้อมปรับรูปแบบโครงสร้างของระบบให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กรได้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วและเสริมศักยภาพให้กับองค์กรนั้น ๆ ได้อย่างสูงสุด หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษา เรายินดีให้คำแนะนำด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์เฉพาะทางมากกว่า 20 ปี

 

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลระบบจัดการเอกสาร เพิ่มเติม

📞 02-517-555

📱063 204 0321

Line ID: @dittothailand