ใบแจ้งหนี้ (Invoice) และใบวางบิล (Billing Note) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

  • January 9, 2025

News Description

ใบแจ้งหนี้ (Invoice) และใบวางบิล (Billing Note) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

 

ในการทำธุรกิจ เอกสารทางการเงินถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจ โดยเฉพาะใบแจ้งหนี้และใบวางบิล ซึ่งเป็นเอกสารที่มีความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ การเข้าใจความแตกต่างและการใช้งานที่ถูกต้องจะช่วยให้การบริหารจัดการการเงินขององค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น บทความนี้เราจะพาคุณไปดูว่า ใบแจ้งหนี้ (Invoice) และใบวางบิล (Billing Note) แตกต่างกันอย่างไร

 

ใบแจ้งหนี้ (Invoice) คืออะไร 

ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารสำคัญทางการค้าที่ผู้ขายออกให้แก่ผู้ซื้อหลังจากส่งมอบสินค้าหรือบริการเรียบร้อยแล้ว เพื่อเรียกเก็บเงินตามมูลค่าของสินค้าหรือบริการนั้น การใช้ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ในการออกใบแจ้งหนี้ช่วยให้กระบวนการทำงานรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น โดยในใบแจ้งหนี้จะมีการระบุรายละเอียดสำคัญ เช่น รายการสินค้า จำนวนเงิน และเงื่อนไขการชำระเงิน พร้อมทั้งลายเซ็นของทั้งผู้ขายและผู้ซื้อเพื่อยืนยันความถูกต้อง 

ใบแจ้งหนี้ (Invoice)

ใบวางบิล (Billing Note) คืออะไร

ใบวางบิลเป็นเอกสารที่ใช้ในการแจ้งยอดค้างชำระและกำหนดการชำระเงิน ซึ่งการนำระบบ automation มาใช้ในการออกใบวางบิลช่วยลดขั้นตอนการทำงานและความผิดพลาด โดยเฉพาะองค์กรที่มีการทำธุรกรรมจำนวนมาก ใบวางบิลมักใช้ในกรณีที่มีการรวบรวมยอดค้างชำระจากใบแจ้งหนี้หลายฉบับ หรือใช้แจ้งกำหนดการชำระเงินตามรอบระยะเวลาที่ตกลงกัน 

 

ใบแจ้งหนี้ กับใบวางบิล ต่างกันอย่างไร 

การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างเอกสารทั้งสองประเภทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการการเงินขององค์กร  

 

ใบแจ้งหนี้ (Invoice)

ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารที่ออกทันทีหลังการส่งมอบสินค้าหรือบริการ ซึ่งปัจจุบันหลายองค์กรได้นำ Digital Signature มาใช้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของเอกสาร โดยในใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดการซื้อขายที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นๆ เพียงรายการเดียว และสามารถใช้เป็นหลักฐานทางการเงินและภาษีได้ 

 

ใบวางบิล (Billing Note) 

ใบวางบิลมักออกตามรอบการวางบิลที่กำหนด โดยการใช้บริการ business process outsourcing สามารถช่วยจัดการกระบวนการวางบิลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใบวางบิลอาจรวมรายการค้างชำระจากใบแจ้งหนี้หลายฉบับ แสดงยอดรวมที่ต้องชำระทั้งหมด และมักใช้เป็นเอกสารแจ้งเตือนการชำระเงิน 

 

ข้อมูลที่จำเป็นต้องมีในใบแจ้งหนี้ และใบวางบิล มีอะไรบ้าง 

เอกสารทั้งสองประเภทมีข้อมูลสำคัญที่จำเป็นต้องระบุ เพื่อความถูกต้องและความสมบูรณ์ของการทำธุรกรรม 

 

ข้อมูลของผู้ประกอบการ 

  1. ชื่อและที่อยู่บริษัท
  2. หมายเลขโทรศัพท์และแฟกซ์
  3. เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
  4. วันที่ออกเอกสาร
  5. เลขที่เอกสาร
  6. ลายมือชื่อผู้ออกเอกสาร 

 

 ข้อมูลของลูกค้า 

  1. ชื่อและที่อยู่บริษัท
  2. เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
  3. ลายมือชื่อผู้รับเอกสาร
  4. รายละเอียดสินค้าหรือบริการ
  5. จำนวนเงินรวมที่ต้องชำระ
  6. วันครบกำหนดชำระ 

ออกใบแจ้งหนี้ 

สรุปบทความ 

การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างใบแจ้งหนี้และใบวางบิลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ ใบแจ้งหนี้จะออกทันทีหลังการส่งมอบสินค้าหรือบริการ ในขณะที่ใบวางบิลใช้สำหรับแจ้งยอดค้างชำระรวมและกำหนดการชำระเงิน การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการเอกสารทั้งสองประเภทนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น 

Ditto มีระบบจัดการเอกสารที่ช่วยให้การออกใบแจ้งหนี้และใบวางบิลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ ECM และระบบ DMS ที่ช่วยจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ ค้นหาง่ายและติดตามสถานะได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดข้อผิดพลาดในการจัดทำเอกสาร ป้องกันการสูญหายและช่วยวางแผนและออกแบบ Workflow Management System ให้สามารถทำงานได้สะดวกและยังรองรับการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ในองค์กร ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ช่วยให้การบริหารจัดการเอกสารทางการเงินขององค์กรเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

📞 02-517-5555

📱063 204 0321

Line ID: @dittothailand


trang cá cược bóng đá uy tín