ทุกวันนี้รูปแบบการทำงานของแต่ละบริษัท หรือแต่ละองค์กร เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง บางบริษัทเองจะทำงานรูปแบบออฟฟิศร้อยเปอร์เซ็นต์ บางบริษัทก็มีนโยบาย Home form Home ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่บางบริษัทก็เป็นรูปแบบ Hybrid ที่ผสมระหว่างการเข้าออฟฟิศและทำงานที่บ้าน ซึ่งรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงทำให้เราต้องปรับตัวอย่างมาก โดยเฉพาะการประชุมที่บางทีเราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงที่ทำงานเพื่อประชุมแค่ไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเครื่องมือที่จะช่วยให้การประชุมเกิดขึ้นได้ทุกที่คือ โปรแกรมประชุมออนไลน์ เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยเตรียมข้อมูล 10 โปรแกรมประชุมออนไลน์ยอดนิยมมาให้คุณแล้ว
โปรแกรมประชุมออนไลน์ยอดนิยม
1. Microsoft Teams
มาดูโปรแกรมประชุมออนไลน์เจ้าแรกอย่าง Microsoft Teams ที่ Microsoft เป็นผู้พัฒนาโปรแกรมนี้ขึ้น โดยโปรแกรมประชุมออนไลน์อันนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก ใช้กันทั่วโลก อีกทั้งเป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาโดย Microsoft ทำให้เวลาประชุมสามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงไฟล์ Word, Excel และ PowerPoint ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สามารถร่วมประชุมได้ 1,000 คน และขยายให้มีผู้ร่วมฟังเพียงอย่างเดียวได้สูงถึง 10,000 คนอีกด้วย
2. Zoom
โปรแกรมประชุมออนไลน์ Zoom ถือเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมประชุมที่นิยมใช้กันทั่วโลก โดดเด่นเรื่อง Virtual Background ที่มีให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งไม่จำเป็นต้องมีบัญชีก็สามารถเข้าประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom ได้เลย และมาพร้อมกับฟีเจอร์การแชร์ไฟล์ ภาพ เสียง หน้าจอ พร้อมสิทธิการเข้าถึงแบบ Remote Computer อีกทั้งยังมีแชทสำหรับที่ประชุม และการยกมือจำลองเหมือนกับอยู่ในห้องประชุมเลย
3. Google Meet
หนึ่งในโปรแกรมประชุมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Google Meet ที่ถูกออกแบบโดย Google สามารถทำงานได้อย่างสะดวก เชื่อมต่อได้ทั้ง Google Doc, Google Slide, Google Sheet และ โปรแกรมอื่นของ Google สามารถเข้าถึงได้เพียงแค่มี Gmail ก็สามารถใช้งานโปรแกรมนี้ได้เลย
4. Webex
โปรแกรม Webex อาจไม่คุ้นหูในประเทศไทยสักเท่าไหร่ แต่ถือว่าเป็นโปรแกรมประชุมออนไลน์ที่ทั่วโลกรู้จัก โดยมีบริษัท Cisco เป็นผู้พัฒนาโปรแกรม สามารถรองรับการประชุมกับผู้เข้าร่วมได้สูงสุดถึง 1,000 คน สามารถแชร์ไฟล์ ภาพหน้าจอ ควบคุมคอมพิวเตอร์ระยะไกล แชท ระบบตัดเสียงรบกวน และยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบนอกโปรแกรมประชุมเช่น Microsoft หรือ Google ได้
5. Slack
โปรแกรม Slack ถือเป็นโปรแกรมที่นิยมอย่างมากในหมู่บริษัท IT เพราะความสามารถของ Slack เทียบเท่ากับโปรแกรม Discord สามารถประชุมออนไลน์ได้ สามารถสร้างพื้นที่โซเชียลมีเดียสำหรับที่ทำงาน แชทแยกสำหรับหัวข้อแต่ละหัวข้อ รวมถึงพื้นที่สำหรับวางไฟล์ เอกสาร และอื่น ๆ รองรับการประชุมแบบวิดีโอคอลสูงสุดถึง 25 คน
6. Discord
เมื่อพูดถึง Slack ไปแล้ว ทีนี้เรามาพูดถึง Discord กันบ้าง เป็นโปรแกรมแชทและพูดคุยสำหรับคนที่เล่นเกมด้วยกัน แต่จริง ๆ แล้ว Discord ถือเป็นโปรแกรมประชุมออนไลน์สำหรับคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ต้องการพูดคุยแค่หัวข้อเล็ก ๆ หรือต้องการปรึกษากันเท่านั้น โดยมีมีฟังก์ชันที่หลากหลาย เช่น การแยกกลุ่มย่อยสำหรับคุยบางหัวข้อ ไม่ให้แชทรบกวนสมาชิกที่เหลือ การแชร์ไฟล์ หน้าจอ และบันทึกภาพหน้าจอได้
7. True VROOM
มาดูโปรแกรมประชุมออนไลน์ที่ถูกพัฒนาโดยคนไทยบ้างอย่าง True VROOM โดยจุดเด่นของ True VROOM คือการใช้งานที่ง่ายและมีคุณภาพ สามารถสร้างการประชุมที่ง่ายและมีความปลอดภัยด้วยรหัสรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้เข้าร่วมโดยเฉพาะ มีฟีเจอร์พื้นฐาน ไม่ว่าจะวิดีโอคอลพร้อมการบันทึกภาพหน้าจอ หรือแชท ที่สำคัญที่สุดคือ ใช้งานได้ฟรีจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
8. Skype
โปรแกรมประชุมออนไลน์ที่รู้จักมานาน ตั้งแต่สมัยวัยมัธยม หรือสมัยที่เริ่มเล่นโซเชียล โดยเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการประชุมออนไลน์ มีจุดเด่น ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยจากการโดนลักลอบเข้าถึงข้อมูล พร้อมทั้งการใช้งานที่ความสะดวกสบาย ใช้ได้ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือจะใช้เบอร์โทรศัพท์เข้าร่วมประชุมได้เลย
9. LINE
สำหรับใครที่ไม่ต้องการใช้แพลตฟอร์มประชุมออนไลน์จริงจัง ก็สามารถประชุมออนไลน์ทาง LINE ได้เลย เพราะรูปแบบการใช้งานที่ง่าย คุ้นเคยกันดี มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย สามารถตอบสนองการประชุมได้ สร้างโน้ตบันทึก แชร์รูป วิดีโอ หรือสามารถแชร์หน้าจอก็ทำได้ มีพื้นที่คลาวด์ส่วนกลางสำหรับกลุ่มให้วันละ 1 GB ซึ่งช่วยให้การทำงานนั้นราบรื่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
10. FaceTime
เป็นโปรแกรมประชุมออนไลน์ที่เหมาะกับกลุ่มคนที่ใช้ Mac, Macbook, iPad และ iPhone เราสามารถใช้ Facetime ในการประชุมได้ เพราะเป็นแอปฟรีที่ติดตั้งมากับอุปกรณ์ทุกรุ่นของตระกูล Apple รองรับการแชร์ไฟล์ การบันทึกภาพหน้าจอ การแชร์หน้าจอให้ดูร่วมกัน
และนี้คือ 10 โปรแกรมประชุมออนไลน์ยอดนิยมที่ทั่วโลกและในประเทศไทยต่างใช้งานกัน ซึ่งการประชุม ออนไลน์ไม่ว่าจะใช้โปรแกรมไหนต่างถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย สามารถเข้าถึงการ ประชุมได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต โดยปัจจุบันทางหน่วยงานราชการเองก็ปรับตัว มีการประชุม ออนไลน์กันมากขึ้น ตามกำหนดของ พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องการให้หน่วยงาน ราชการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการทำงานมากขึ้น และเป็นการยกระดับการให้ บริการแก่ประชาชน โดย Ditto ได้เล็งเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ เราจึงออกแบบระบบจัดการเอกสารสำหรับ อบต. และ อบจ. ที่นำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยจัดการระบบงานในหน่วยงานราชการ ที่มาพร้อมระบบรักษา ความปลอดภัยของข้อมูลในระดับมาตรฐานสากลที่ทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ และประชาชนรู้สึก วางใจเมื่อเข้าใช้บริการในหน่วยงานราชการ
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด ระบบระบบจัดการเอกสาร อบต. และ อบจ. เพิ่มเติม
📞 02-517-5555
Line ID: @dittothailand