IoT หรือ Internet of Thing เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น ด้วยแนวคิดเรื่องอุตสาหกรรม 5.0 ที่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม ด้วยการช่วยวิเคราะห์และรวบรวมข้อมูล ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตทำงานได้รวดเร็ว ยืดหยุ่น และสามารถผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่า IoT คืออะไร? และทำไมจึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน และมีการนำ IoT มาใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้างกับอุตสาหกรรมปัจจุบัน
IoT คืออะไร
Internet of Things หรือ ระบบ IoT คือ ระบบที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับอินเทอร์เน็ต เพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูลและทำงานร่วมกันได้อย่างอัตโนมัติ ระบบ IoT นี้มีความสำคัญในการเชื่อมโยงอุปกรณ์ในโลกดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ทำให้เกิดการควบคุมและการจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง IoT มีจุดประสงค์ในการช่วยให้ผู้ผบริโภคใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น สะดวกสบาย และเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
การประยุกต์ใช้ IoT ในชีวิตประจำวัน
หลังจาที่เราทราบันแล้วว่า IoT คือ ระบบที่เชื่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบระบบการทำงานได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาใดก็ตาม ในหัวข้อนี้เราจะพามาดูตัวอย่างการใช้งาน IoT ในชีวิตประจำวันว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณเข้าใจการทำงานของ IoT มากขึ้น
Smart Home – ระบบบ้านอัจฉริยะ
Smart Home หรือ ระบบบ้านอัจฉริยะ เป็นการนำ ระบบ IoT ที่สามารถส่งสัญญานผ่านอินเตอร์เน็ตได้ มาทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์บนโทรศัพท์มือถือ ทำให้เราสามารถควบคุมระบบไฟฟ้า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ ระบบรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ ภายในบ้านด้วยการกดปุ่มสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน (Smartphone) หรือใช้ เสียงพูด (Voice Command) ช่วยในการเปิดปิดหรือควบคุมการทำงานของสิ่งของในบ้าน
นอกจากจะช่วยให้การอยู่อาศัย และ การดูแลบ้านมีความสะดวกสบาย ทันสมัยมากขึ้น ยังช่วยเรื่องความปลอดภัย และช่วยประหยัดทั้งเวลา และค่าไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
Smart City – ระบบเมืองอัจฉริยะ
Smart City หรือ ระบบเมืองอัจฉริยะ คือ เมืองที่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการภายในเมือง และนำเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชน นอกจากจะทำให้เมืองมีความทันสมัย มีสะดวกสบายขึ้น ยังช่วยลดค่าใช้จ่าย หรือทรัพยากรของเมืองได้ ซึ่งจะลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น เมืองน่าอยู่ขึ้น สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
Smart Farming – ระบบฟาร์มอัจฉริยะ
สมาร์ทฟาร์ม หรือ ระบบฟาร์มอัจฉริยะ เป็นรูปแบบการทำเกษตรแบบใหม่ที่จะทำให้ การทำไร่ทำนามีภูมิคุ้มกันต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการนำเอาข้อมูลของภูมิอากาศทั้งในระดับพื้นที่ย่อย (Microclimate) ระดับไร่ (Mesoclimate) และระดับมหภาค (Macroclimate) มาใช้ในการบริหารจัดการ ดูแลพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้น รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
Smart Grid – ระบบส่งไฟฟ้าอัจฉริยะ
สมาร์ทกริด (Smart Grid) คือ ระบบโครงข่ายสำหรับส่งไฟฟ้าอัจฉริยะแบบครบวงจรโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สมาร์ทกริดทำหน้าที่ส่งไฟฟ้าจากผู้ให้บริการไปยังผู้ใช้บริการด้วยระบบการสื่อสารสองทางเพื่อควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า ณ บ้านของผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Smart Factory – ระบบโรงงานอัจฉริยะ
Smart Factory หรือในชื่อไทยคือโรงงานอัจฉริยะ คือ การนำเทคโนโลยี Automation ผสานเข้ากับ IoT และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและปรับใช้เข้ากับระบบโรงงาน เพื่อผลักดันขีดความสามารถของโรงงานเหล่านั้นให้สูงขึ้น ช่วยให้ลดโอกาสเกิดความผิดพลาดในการผลิต เพราะสามารถรู้การทำงานของเครื่องจักรและดำเนินการซ่อมแซมได้ทันท่วงที รวมถึงช่วยวางแผนไลน์ผลิตได้อย่างเป็นระบบอีกด้วย
ประโยชน์ของการใช้ IoT มีอะไรบ้าง
1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
IoT จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากความสามารถในการทำงานและการส่งผ่านข้อมูลของ IoT นั้นสูงกว่าการใช้มนุษย์ทำงาน การทำงานของมนุษย์อาจจะทำให้เกิด Human Error และเกิดข้อจำกัดด้านพลังงาน, เวลา และสถานที่ได้ แต่ความสามารถของ IoT คือการเก็บข้อมูล ประมวลผล ส่งผ่าน และแสดงผลได้อย่างรวดเร็วและสามารถรองรับข้อมูลได้เป็นจำนวนมหาศาล
2. อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทำได้ดีกว่าเทคโนโลยีคือ “ความคิดสร้างสรรค์” การให้เทคโนโลยีทำงานด้าน Routine แทนเรา จะทำให้เรามีเวลาในการทำงานสร้างสรรค์ งานนวัตกรรม ทำสิ่งที่ควรทำมากยิ่งขึ้น เพราะแท้ที่จริงแล้วมนุษย์มีศักยภาพที่ซ่อนอยู่มากกว่าจะทำเพียงแค่งาน Routine เท่านั้น การให้เทคโนโลยีทำงานแทนและโยกแรงงานที่ทำงาน Routine มาฝึกฝนเพื่อทำงานที่ซับซ้อนและใช้ไอเดียมากขึ้นจะทำให้กิจการเกิดความก้าวหน้ามากขึ้น
3. ช่วยลดต้นทุนได้อย่างยั่งยืน
เนื่องจาก IoT มีความแม่นยำและไรข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ ทำให้ช่วยลดต้นทุนได้หลาย ๆ ด้าน อย่างเช่นต้นทุนการจ้างงาน ต้นทุนค่าเสียโอกาส หรือต้นทุนการผลิต
ตัวอย่างต้นทุนการผลิตที่ลดลง อธิบายได้ง่าย ๆ เช่น ถ้าหากว่าเราทราบข้อมูลความต้องการสินค้าอย่างละเอียดและเฉพาะเจาะจง เราะจะสามารถผลิตได้ตามความต้องการของลูกค้าในทันท่วงที ตามจำนวนการสั่ง หรือที่เรียกว่า Just In Time (JIT) การผลิตแบบนี้จะช่วยลดต้นทุนจมในการผลิตที่เกินมาได้อย่างมีนัยสำคัญ
4. ลดข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่
IoT สามารถทำงานได้แบบไร้พรมแดน เพราะขับเคลื่อนด้วยอินเทอร์เน็ต อย่างที่เราทราบกันดีว่าอินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมสิ่งที่อยู่ห่างไกล ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นสามารถติดตามผลการดำเนินงานและเช็คสถานะการผลิตได้ แม้ว่าโรงงานจะอยู่คนละจังหวัดหรือประเทศก็ตาม และ IoT ยังสามารถทำงานได้ตลอดเวลา ต่างจากมนุษย์ที่มีพลังงานจำกัด ต้องการการพักผ่อน สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าการใช้ IoT คือสิ่งที่ช่วยทำลายกำแพงด้านเวลาและสถานที่ได้
5. ผลิกโฉมกิจการให้ทันสมัย
IoT คืออีกหนึ่งปัจจัยในการเกิดเป็น Smart Factory หรือ Smart Business และช่วยเสริมให้เกิดข้อดีหลาย ๆ อย่าง เช่นสร้างกำไร, ลดต้นทุน, เพิ่มรายได้และขยายกิจการ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผลประกอบการดีขึ้น มีหน้างบการเงินที่สวย (โดยไม่ต้องตกแต่งตัวเลข) เป็นที่น่าจับตามองของนักลงทุนหรือ Partner ต่าง ๆ ที่จะเข้ามาสนับสนุนธุรกิจของคุณ
การพัฒนา Digital Twin Data จาก Ditto
ด้วยเหตุนี้เองทาง Ditto ได้ร่วมกับ ทีมกรุ๊ป (TEAMG) จัดตั้งบริษัท ดี ที เอ็กซ์ จำกัด หรือ DTX เพื่อทำธุรกิจที่เป็น Core Technology ที่เรียกว่า Digital Twin โดยนำ BIM มาใช้ในงานออกแบบ และงานควบคุมการก่อสร้างโครงการ จึงมีความพร้อมที่จะประยุกต์ใช้ข้อมูลจาก BIM ไปสู่การสร้าง Digital Twin Data เปลี่ยนจากข้อมูลบนกระดาษเป็น Digital information ช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาดในรูปแบบ Software ที่พัฒนาขึ้นใหม่ สามารถดูข้อมูลได้แบบ Real Time ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที และลดการจ้างแรงงานด้วยการใช้เซนเซอร์ในการเก็บข้อมูล Digital Twin จึงเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยขับเคลื่อนระบบ Smart City ในประเทศไทยได้อนาคต
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: เปลี่ยน ตึก-เมือง ให้สมาร์ท DTX แก้ปัญหาด้วย Digital Twin
สรุป Internet of Thing
โดยสรุปแล้ว IoT คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของอินเตอร์เน็ตที่เหนือกว่าการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สมาร์ทโฟนไปยังวัตถุอื่น ๆ และสิ่งแวดล้อม โดยที่การถูกเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยี IoT นั้นดำเนินการเพื่อรวบรวมจัดเก็บข้อมูล ส่งข้อมูลออกไป หรือทั้งสองรูปแบบ ซึ่งช่วยให้ภาคธุรกิจหรือบุคคลทั่วไปได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกและสามารถควบคุมข้อมูลของวัตถุและสิ่งแวดล้อมได้ถึงร้อยละ 99 ซึ่งอยู่นอกเหนือจากการเข้าถึงผ่านอินเตอร์เน็ต และนอกจากนั้น IoT คือสิ่งที่ช่วยให้ภาคธุรกิจและผู้คนได้เชื่อมต่อเข้ากับโลกและสภาพแวดล้อมรอบตัว อีกทั้งยังสามารถทำงานหรือดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องแคล่วมากขึ้น
ติดต่อสอบถามข้อมูลระบบจัดการเอกสาร เพิ่มเติม
📞 02-517-555
📱063 204 0321
Line ID: @dittothailand