4 เคล็ดลับก่อนเริ่มทำ Digital Transformation ที่ทุกองค์กรต้องรู้

  • June 25, 2022

News Description

Digital Transformation

 

แม้ว่าในยุคปัจจุบันนี้ Digital Transformation จะเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้าม แต่การทำความเข้าใจ และศึกษาคอนเซปต์การเปลี่ยนแปลงนี้ให้ละเอียดถี่ถ้วน ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกองค์กรต้องทำก่อนเริ่มการปรับตัว ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ Ditto จึงอยากจะมาแนะนำ 4 เคล็ดลับ การเตรียมพร้อมก่อนเริ่มทำ Digital Transformation ให้ทุกองค์กรได้รู้กันครับ ว่ามีขั้นตอนหรือข้อแนะนำอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านนี้ เป็นไปได้อย่างราบรื่น และไม่มีปัญหาตามมา

 

 

1. เตรียมความพร้อมให้บุคลากรเป็นอันดับแรก

 

การทำ Digital Transformation ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คนทำงานหรือบุคลากรภายในก็เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยส่งเสริมให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะหากบุคลากรสามารถปรับตัว ตามความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การทำงานภายในก็จะเกิดความต่อเนื่อง สามารถดำเนินงานต่อไปได้โดยไม่มีอะไรติดขัด ประสิทธิภาพการทำงานก็จะถูกยกระดับ ให้เหมาะสมกับยุคสมัย และก้าวทันโลกได้อย่างที่ควรจะเป็น

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่องค์กรชั้นนำที่ทำ Digital Transformation ควรให้ความสำคัญกับความรู้และประสบการณ์ของพนักงานก่อนเป็นอันดับแรก เพราะการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน บุคลากรแต่ละคนต่างก็มีศักยภาพ ในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันไปเป็นปกติ บ้างก็เรียนรู้ได้เร็ว บ้างก็เรียนรู้ได้ช้า ต้องใช้เวลาที่เหมาะสมในการขัดเกลาทักษะ หากองค์กรต้องการผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจจากความเปลี่ยนแปลง ต้องไม่รีบเร่งหรือกดดันพนักงานมากจนเกินไป ฉะนั้นการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรล่วงหน้า จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้าม

 

digitization process

 

2. กำหนด “เป้าหมาย” และ “ผลลัพธ์” ของการทำ Digital Transformation ให้ชัดเจน

 

การทำ Digital Transformation นั้น ตัวองค์กรจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมาย และผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจนที่สุด เพราะบุคลากรหรือพนักงานภายในจะได้เข้าใจว่าจุดประสงค์ของการ Transformation คืออะไร พวกเขาจะเห็นความเชื่อมโยงของหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การทำงานมีผลลัพธ์ที่ตรงตามเป้าหมาย มีประสิทธิภาพมากพอในระดับที่องค์กรต้องการจะให้เป็น ทั้งยังสามารถวัดผลได้อีกว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ประสบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหน เหมาะสมและเข้ากับตัวองค์กรได้หรือไม่อย่างไร

 

ซึ่งหากภาพรวมของเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ตั้งไว้ไม่ชัดเจน ทิศทางการทำงานหลังจากทำ Digital Transformation ก็จะไม่มั่นคง อาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมาได้ เช่น ผลลัพธ์การทำงานออกมาไม่ตรงเป้า เพราะมีปัญหาเรื่องกระบวนการทำงานที่เปลี่ยนไป เป็นต้น แต่หากเราตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจน กำหนดภาพรวมของผลลัพธ์ที่มุ่งหวังไปในทิศทางเดียวกันทั้งองค์กร การทำงานหลังจาก Transformation ก็จะผ่านไปได้ง่ายและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ความผิดพลาดก็จะลดลง ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะมีประสิทธิภาพ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กรที่คาดหวังไว้

 

 

3. ออกแบบขั้นตอนการทำงานให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ

 

เมื่อองค์กรเริ่มทำ Digital Transformation เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ย่อมส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมและความเคยชินที่แตกต่างไปจากเดิม ดังนั้นเพื่อให้การทำงานเกิดความลื่นไหลไม่มีปัญหาตามมา ตัวองค์กรต้องเตรียมความพร้อมด้วยการปรับนโยบายบางส่วน พร้อมทั้งออกแบบขั้นตอนการทำงานให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลง เพราะสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นพื้นฐานของกระบวนการทำงานรูปแบบใหม่ ที่บุคลากรจะต้องเผชิญ การ Transformation จะประสบความสำเร็จได้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าพื้นฐานที่ตัวองค์กรวางไว้ยืดหยุ่นมากน้อยขนาดไหน

 

digital transformation เทคนิค

 

ซึ่งในแต่ละเทคโนโลยีต่างก็มีวิธีการใช้งาน และสร้างผลลัพธ์ได้แตกต่างกันออกไป หากองค์กรออกแบบขั้นตอนการทำงานไว้ได้อย่างเหมาะสม มีนโยบายที่พร้อมสนับสนุนทุกความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น มันก็จะช่วยให้บุคลากรสามารถปรับตัวหลังทำ Digital Transformation ได้อย่างราบรื่น พวกเขาจะพร้อมรับมือกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามา ทั้งยังมีแนวทางการทำงานที่ชัดเจน เป็นระบบ พร้อมสร้างผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ตามเป้าหมายขององค์กรได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คลิก : การทำ Digitization สำคัญแค่ไหนสำหรับองค์กรยุคใหม่?

 

 

4. ศึกษาและเลือกสรรเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์กับองค์กร

 

ก่อนที่จะทำ Digital Transformation ทุกองค์กรควรศึกษาและเรียนรู้เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ให้ละเอียดถี่ถ้วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเมื่อเกิดการ Transformation ขึ้นแล้ว เราคงอยากให้การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลลัพธ์ที่ออกมาดีไม่มีปัญหาตามมา ซึ่งหลายองค์กรที่เริ่มทำ Digital Transformation มักละเลยและทำผิดพลาดในขั้นตอนนี้

 

การนำเข้านวัตกรรมใหม่มาโดยปราศจากการศึกษาเรียนรู้อย่างละเอียด จะส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นเมื่อเริ่มทำงานจริง กระบวนการภายในจะติดขัดล่าช้า ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้ตามที่มุ่งหวังไว้ โดยอาจส่งผลให้องค์กรต้องย้อนกลับไปสู่การทำงานรูปแบบเดิม นั่นหมายความว่าการทำ Transformation นี้ไม่ประสบความสำเร็จ ตัวองค์กรต้องสูญเสียทรัพยากรไปอย่างสูญเปล่าและไม่ได้รับอะไรกลับมา

 

digitization คือ

 

โดยหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพ และสามารถรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด คือการวางรากฐานองค์กรให้พร้อมรับมือ กับขั้นตอนการทำงานที่เปลี่ยนไปในทุกรูปแบบ เพราะแม้ว่าเราจะศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้มากขนาดไหน ก็มีความเป็นไปได้อยู่ดีว่าจะเกิดปัญหาที่ไม่คาดฝันตามมา แต่ถ้าองค์กรมีรากฐานการทำงานที่ทันสมัย มีระบบขั้นตอนการทำงานที่ยืดหยุ่นและพร้อมปรับตัวให้เข้ากับทุกความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น องค์กรก็จะสามารถแก้ไขและก้าวผ่านปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมั่นคง

 

Ditto เล็งเห็นความสำคัญของขั้นตอนนี้ จึงมุ่งเน้นพัฒนาระบบต่าง ๆ ด้วยความใส่ใจ เราพร้อมวางรากฐานให้ทุกองค์กรมีขั้นตอนการทำงานที่ทันสมัย และตอบโจทย์ต่อการทำ Digital Transformation ในทุกรูปแบบได้อย่างครอบคลุมที่สุด หากสนใจอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ทันทีครับ

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

bangkokbanksme.com, learninghubthailand.com

 

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Ditto

📞 02-517-5555

dittothailand.com/contact-us

Line ID: @dittothailand

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม